พิมพ์แคตตาล็อก

[Beer625]

พิมพ์แคตตาล็อก
งานพิมพ์แคตตาล็อกแท้จริงแล้วตามความหมายที่ถูก เป็นงานพิมพ์ที่มีลักษณะเป็นเล่มหรือเอกสารเย็บเล่มที่
ควรมีบทนำ สารบัญ เนื้อหาโดยไม่ได้ต่างอะไรจากหนังสือฉบับย่อหนึ่งเล่ม แม้กระนั้นหากว่าในปัจจุบันสิ่งพิมพ์แคตตาล็อกได้มีการ
เปลี่ยนความหมายไปเป็นการตามลักษณะของการใช้แรงงาน ซึ่งความหมายเปลี่ยนเป็นงานเอกสารที่แสดงรายละเอียด
ของผลิตภัณฑ์โดยจะมีรูปภาพประกอบและอาจจะมีคำพรรณนาหรือข้อเสนอแนะสินค้าดูแลไว้ ซึ่งปัจจุบันแปลงเป็นว่าสิ่ง
พิมพ์แคตตาล็อกไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นรูปเล่มหรือควรมีส่วนประกอบอย่างบทนำรวมทั้งสารบาญก็ได้ โดยที่นิยมมากในตอนนี้
ก็คือสิ่งพิมพ์แคตตาล็อกแบบอย่างแผ่นพับ เป็นต้น
รูปแบบของแคตตาล็อกที่ถูก คือ งานเอกสารสื่อโฆษณาประเภทการแสดงระเอียดรายการที่สินค้าที่คนจัดทำ
อยากได้พรีเซ็นท์ โดยจะมีภาพประกอบผลิตภัณฑ์ ชื่อสินค้าและก็เนื้อหาของผลิตภัณฑ์นั้น ซึ่งอาจจะมีการจำแนกประเภทเป็นกรุ๊ป
ประเภทสินค้าเพื่อจ่ายต่อการจำแนกแยกแยะ โดยจะมีการทำสารบาญเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา ทั้งนั้นเอกสารทั้งผองจะถูก
ทำเป็นแบบอย่างรูปเล่มคล้ายกับแมกกาซีน โดยวัตถุประสงค์ด้านการใช้แรงงานของการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นชี้เฉพาะแน่ชัดใน
ด้านเนื้อหา แตกต่างจากสิ่งพิมพ์โปรโมทจำพวกอื่นๆที่คนจัดทำต้องการจะใส่เนื้อหาจำพวกไหนลงในสิ่งพิมพ์ก็ได้ แม้กระนั้นสำหรับ
สิ่งพิมพ์นี้ถ้าเมื่อคนพูดถึงสิ่งพิมพ์แคตตาล็อก ในความคิดทุกคนต้องคิดภาพเอกสารที่มีรูปสินค้าแล้วก็เนื้อหาโดยทันที
แม้กระนั้นเนื่องด้วยการพิมพ์แคตตาล็อกเป็นต้นแบบรูปเล่มนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากมายรวมทั้งมีความหนาแล้วก็ขนาดใหญ่
จึงไม่เหมาะสมในการใช้งานจำพวกการแจกจ่ายแบบทั่วไปตามท้องถนน จึงทำให้มีการจัดทำแผ่นพับที่ระบุชนิดเจาะจงรายละเอียด
สินค้า และก็ทำให้คนธรรมดาทั่วไปเรียกแผ่นพับเหล่านี้ว่าแคตตาล็อกกันอย่างแพร่หลายซึ่งนับว่าไม่ถูกต้องตามหลักการใช้งานควรเรียก
เป็นแผ่นพับมากกว่า ในการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นผู้จัดทำจำต้องวางรูปแบบการดำเนินเรื่อง ส่วนประกอบเนื้อหา พวก แล้วก็จำนวน
หน้า รวมถึงจำนวนเล่มที่จำต้องผลิต ด้วยเหตุว่าการต้นแบบการพิมพ์ไม่แตกต่างจากหนังสือเนื่องจากปริมาณเล่มจำเป็นต้องเยอะแยะในระดับหนึ่งเพื่อ
คุ้มกับเงินลงทุนในการทำแม่พิมพ์เยอะๆ
ขนาดของงานเอกสารแคตตาล็อกโดยทั่วไปควรใช้ขนาดประมาณ A4 , A5 ,A6 หรือบางครั้งอาจจะใหญ่หรือเล็กกว่าสัก
บางส่วน เพราะหากขนาดที่แปลกเกินไปบางครั้งอาจจะจำต้องเสียค่าแผ่นพิมพ์เพิ่มอีก การเลือกใช้กระดาษก็มักจะเป็นกระดาษปอนด์หรือ
อาร์ตมัน แต่ที่จำต้องตรึกตรองเรื่องความสวยงามเป็นพิเศษนั่นเป็น ปกของแคตตาล็อก โดยชอบใช้กระดาษที่มีความดกกว่า
ภายใน ตัวอย่างเช่น อาร์ตการ์ด ฯลฯ ทั้งนี้อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการตกแต่งพิเศษประเภท Spot UV หรือ ปั๊มนูน ส่วนท้ายที่สุดการเข้ารูปเล่มจะ
เป็นแบบเย็บมุงหลังคา หรือการไสสันทากาว แบบไหนก็ขึ้นกับความดกของรูปเล่มอีกทีหนึ่ง
เนื่องแต่พิมพ์แคตตาล็อกนั้นมีค่าใช้จ่ายที่มากก็เลยไม่นิยมใช้เป็นโฆษณาที่ใช้แจกพร่ำเพรื่อและไม่เหมาะสมกับ
กลุ่มลูกค้าทั่วๆไป จะต้องใช้สำหรับกรุ๊ปลูกค้าที่ความสนใจจริงๆรวมทั้งมีโอกาสบริโภคเพียงแค่นั้น ตัวอย่างเช่น กลุ่มลูกค้าเดิมที่มีในฐานข้อมูล
ก็บางทีอาจจะใช้การจัดส่งผ่านไปรษณีย์ให้ลูกค้าโดยตรง หรืออาจจะเป็นลูกค้าที่เข้ามาไต่ถามถึงผลิตภัณฑ์ของท่านหรือเข้ามาในส่วน
ของร้านท่านแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้ามาเดินดูรถยนต์ในโชว์รูมรถยนต์ จะต้องแจกแคตตาล็อกที่มีรายละเอียดเพิ่มเติมให้ประกอบการ
ตัดสินใจเพื่อสร้างความตรึงใจให้ลูกค้า สุดท้ายนี้การพิมพ์แคตตาล็อกควรมีการวางเป้าหมายและก็คำนึงถึงความเหมาะสมเป็น
อย่างยอดเยี่ยมเสียทุกครั้งก่อนจะมีการจัดทำ