5 นิสัยห่วยแตกๆอย่าทำในที่ทำงาน..หลายคนไม่รู้ตัว

[kaidee20]

หลายองค์กรให้คะแนนงานบุคลากรกันเป็นทุกปี แต่ว่าก็มีบางที่จัดกันปีละ 2 ครั้ง

เพื่อตรวจเช็คการทำงานของพนักงาน รวมไปถึงความรู้สึกนึกคิด


ซึ่งไม่ได้วัดออกมาเป็นระดับคะแนน หรือความชอบใจ จากการตอบปัญหา "ถูก" หรือ "ผิด" ที่สำคัญ


สิ่งที่ได้บอกออกไปในระหว่างการวัดอาจจะประดิษฐ์ หรือ ทำ ล า ย หน้าที่การงานได้เลยทีเดียว

แม้กระนั้นบางบริษัทเห็นว่าการประเมินผลงานเทศการประจำปีเกิดเรื่องล้าสมัย

เนื่องจากว่าผู้ว่าจ้างควรประเมินเรื่องอื่นๆอีกทั้งความสามารถสำหรับเพื่อการปฏิบัติงาน

การบริการลูกค้า ทีมเวิร์ก ไปจนถึงทัศนคติ ทำให้หลายองค์กรใช้ระบบการให้คำปรึกษาย้อนกลับ

หรือฟีดแบ็กรวมถึงระบบการสอนงาน หรือผู้ฝึกสอนชิ่งแทน แต่ไม่ว่าหน่วยงานจะใช้การประเมินแบบใด

สิ่งสำคัญเป็นพนักงานจะต้องสามารถสื่อ ส า ร ได้อย่างมีคุณภาพ


แล้วก็มี 5 ประโยคที่ไม่สมควรเอ่ยออกมา เพราะว่าสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดผลลบมากยิ่งกว่า


ซึ่ง cheatsheet.com เขียนถึงประเด็นนี้ไว้อย่างน่าสนใจ

"นี่ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน"

ประโยคนี้นอกเหนือจากที่จะแสดงให้เห็นว่า ผู้พูดจำเป็นต้องปรับปรุงมารยาทไม่ให้พูดโพล่งออกมาแล้ว

ควรจะจดจำไว้เพราะ การกำหนดหน้าที่งาน หรือ Job Description

มิได้ครอบคลุมหน้าที่ที่จะต้องทำทั้งผอง 100% แถมยังจำต้องเปลี่ยนแปลงตามสภาพธุรกิจอีกด้วย

ผู้ว่าจ้างรู้สึกชื่นชอบพนักงานที่มีความยืดหยุ่น พร้อมรับมือกับงานหลายๆอย่าง

ด้วยทัศนคติเชิงบวก แม้กระนั้นถ้าอยากได้สะท้อนถึงความจำเป็นที่มากเกินไปของนายจ้าง

ก็สามารถเลือกใช้ประโยคอื่นๆแทน เช่น "งานเดิมที่กำหนดเส้น ต า ย เอาไว้

ทำให้ยังไม่มีจังหวะปฏิบัติภารกิจเสริมเติม" หรือชี้แจงว่า

คุณไม่สมควรรับผิดชอบงานส่วนนี้ เพราะว่ามีบุคคลอื่นที่เหมาะมากกว่า

"คุณคาดหมายจากฉันมากเกินไป"

แน่นอนว่า นายย่อมคาดหวังหลายเรื่อง

ซึ่งอาจจะทำให้พนักงานคิดว่าปฏิบัติงานเกินค่าจ้างที่ได้รับ

แม้กระนั้นการป้องกันตัวเองมากเกินไปก็บางทีก็อาจจะไม่ใช่แนวทางที่เยี่ยมที่สุด


ด้วยเหตุนั้น การเลิกทนและก็ควบคุมอารมณ์เป็นช่องทางที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอะไร

เพราะการแสดงอารมณ์ออกมาบางทีอาจไม่ได้ทำให้อะไรดียิ่งขึ้น

"ฉันทำไม่ได้"

การพูดว่า "ทำไม่ได้" เป็นข้อจำกัด ซึ่งนอกเหนือจากผู้พูดจะนิยามคิดของตนเอง

เกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเราเองสามารถทำได้แล้ว ยังจำกัดความคิดของผู้อื่น

รวมทั้งนายจ้างเกี่ยวกับความสามารถของผู้พูดด้วย

การพูดประโยคนี้พอๆกับบอกนายจ้างว่า คุณขาดทักษะที่จะดำเนินงานให้สำเร็จได้

และถ้าหากตอบสั้นๆก็อาจแปลได้ว่า คุณไม่มานะจะเรียนรู้ ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบเข้าไปอีก

โดยเหตุนี้จำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงไปใช้คำบอกเล่าอื่นๆดังเช่น "เราจะทดลองทำเช่นไรดี"

หรือ "นี่เป็นข้อเสนอที่ดี มอบโอกาสฉันได้มีส่วนร่วมที่จะทำให้สำเร็จด้วยคน"

ซึ่งจะเปิดทางให้สามารถหาแผนที่เหมาะสมกับตนเองได้

"ขอบพระคุณที่สังเกตเห็นสุดท้าย"

การได้รับคำชื่นชมสำหรับการประมวลผลงานนับเป็นความเสร็จในหน้าที่การงานขั้นเล็กๆ

แต่ก็ไม่สมควรหลงระเริงกับคำกล่าวชมนั้น ถ้าเกิดไม่สามารถที่จะรับมือได้ดิบได้ดีเพียงพอ ดังเช่น การกล่าวคำจำพวกว่า

"ขอบพระคุณที่สังเกตเห็นสุดท้าย" จะทำให้บรรยากาศกลับอึดอัด

และอาจก่อให้นายไม่ชื่นชอบคุณอีกในอนาคต แค่ขอบคุณ

หรืออธิบายถึงความมานะบากบั่นที่ยาวนานกว่าจะเสร็จก็น่าจะพอเพียงแล้ว

"มิได้เกียจคร้านนะ ก็แค่ไม่แคร์เพียงเท่านั้น"

นี่เป็นประโยคเด็ดจากภาพยนตร์เรื่อง "ที่ทำงาน สเปซ" แต่ถ้าหากนายไม่ได้รู้จัก

เหตุการณ์ข้างหลังกล่าวประโยคนี้ก็จะเชิญชวนอึดอัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ว่าจ้างมองหน้าเพื่อ

ให้อธิบายถึงคำบอกเล่าดังกล่าวข้างต้นที่แสดงถึงความไม่พอใจ

รู้กลเม็ด 5 ประโยคที่ห้ามพูดแล้ว ก็ทุ่มเทปฏิบัติงานให้เต็มที่

เวลาให้คะแนนงานจะได้เปิดใจกับหัวหน้ากันแบบบันเทิงใจ

เผื่อได้ปรับเงินเดือนขึ้น แถมด้วยตำแหน่งใหม่ๆก็ได้ คนใดกันแน่จะไปรู้!
นิสัย
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13385/